คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG)
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiography)
เป็นการตรวจการทำงานของหัวใจเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจบีบตัว และคลายตัว สลับกันไปเป็นจังหวะอย่างสม่ำเสมอ หรือเต้นผิดจังหวะ หรือไม่วัตถุประสงค์ ในการตรวจ
การแปลผล เบื้องต้น
1.อ่านอัตราการเต้นของหัวใจว่าเร็วหรือช้าผิดปกติหรือไม่ อัตราการบีบตัวของเอเตรียมเท่ากับอัตราการบีบตัวของเวนตริเคิลหรือไม่
2.ดูจังหวะการเต้นว่าสม่ำเสมอหรือไม่ โดยสังเกตจาก P ไปยัง P และ R ไปยัง R ว่าคงที่หรือไม่
3.สังเกตว่ามี P wave ปรากฏให้เห็นทุกครั้งหรือไม่ ในแต่ละจังหวะการเต้นของหัวใจ และ P wave นั้นสัมพันธ์กับ QRS หรือไม่
4.ดู P wave และ QRS ว่ามีลักษณะของคลื่นเหมือนกัน ทุกจังหวะการเต้นหรือไม่
5.ช่วง P – R interval, QRS complex และ QT interval อยู่ในมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่
6.แปลผลว่าหัวใจเต้นผิดปกติชนิดใด ควรได้รับการรักษาพยาบาลอย่างไรกับการผิดปกติชนิดนั้น
ขนาด 25mm/s
การบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
การบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นการใช้เครื่องบันทึกเป็นกราฟการเต้นของหัวใจ โดยเครื่องบันทึกจะใช้ความเร็ว กระดาษ มี 2 ขนาด คือ 50 มิลลิเมตร / วินาที และ 25 มิลลิเมตร / วินาที โดยส่วนใหญ่การบันทึกจะใช้เครื่องความเร็ว 25 มิลลิเมตร / วินาที ซึ่ง ทำให้ 1 ช่องเล็ก (1 มิลลิเมตร) ของกระดาษบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจมีค่าเท่ากับ 1 / 25 = 0.04 วินาที 5 ช่องเล็ก หรือ 1 ช่องใหญ่ (5 มิลลิเมตร) เท่ากับ 0.2 วินาที ความสูงแต่ ละช่องเล็กคิดเป็นความแรงของกระแสไฟฟ้า เท่ากับ 0.1 มิลิโวลต์P wave เป็นผลรวมของระยะเมื่อถูกกระตุ้น (depolarization) ของเอเตรียม (atrium) หรือ atrial depolarization รูปร่างกลมเรียบกว้างไม่เกิน 0.12 วินาที ความสูงไม่เกิน 2.5 มิลลิเมตร จะมี P wave 1 คลื่น ต่อ QRS complex 1 คลื่นหัวตั้งใน lead, I, II, AVF, V4 V5 V6 หัวกลับใน AVR
PR Interval เป็นระยะของการเริ่มมีสัญญาณไฟฟ้า จนถึงจุดเริ่มระยะ ความยาวปกติเท่ากับ 0.12–0.20วินาที
QRS complex เกิดจากระยะเมื่อถูกกระตุ้น และ การหดตัวของเวนตริเคิล ปกติ 60–100ครั้ง / นาที จังหวะสม่ำเสมอลักษณะคลื่นสูงแคบ 0.04–0.10วินาที
Q wave เป็นส่วนแรกของเวนตริเคิลที่ถูกกระตุ้น มีความลึกไม่เกิน 1/2 ของคลื่น QRS และกว้างไม่เกิน 0.04 วินาที
ST segment เป็นส่วนที่อยู่ระหว่างจุดสิ้นสุดของ QRS และเริ่มต้นของ T คือช่วงเวลาระยะเมื่อถูกกระตุ้น สิ้นสุดลงและก่อนการกลับเข้าสู่สภาพปกติจะเริ่มขึ้น ระยะนี้จะไม่มีความแตกต่างของประจุกไฟฟ้าที่ขั้วบวกและลบ คลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ปกติเป็นแนวราบ (isoelectric)
T wave เป็นระยะที่ต้องใช้พลังงาน คลื่น T จึงเปลี่ยนแปลงได้ง่าย เช่น ในภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือมีการเปลี่ยนแปลงของอิเล็กโทรไลต์ ปกติคลื่น T จะสูง ไม่เกิน 0.5 mV ในขั้วต่อแขนขา และไม่เกิน 1 mV ในขั้วต่อทรวงอกหัวตั้งกลมเรียบ ใหญ่กว่า P Wave
QT interval เป็นระยะระหว่างจุดเริ่มต้นของ QRS complex และการสิ้นสุดของ T wave วัดในขณะที่เวนตริเคิลซ้ายบีบตัวความยาวประมาณ 0.35–0.40วินาที
U wave เป็นคลื่นบวกเล็ก ๆ เกิดตามหลัง T wave ปกติจะไม่พบ แต่บางครั้งก็พบ จะมีความสูงเกิน 1 มิลลิเมตร
RR interval ระยะเวลาระหว่าง QRS complex ถึง QRS ถัดไป
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (arrhythmia) เป็นคำรวมของโรคที่เกิดจากสัญญาณไฟฟ้าที่หัวใจสร้างขึ้นมีความผิดปกติไปจาก เดิม ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ โดยหัวใจอาจเต้นเร็วขึ้นหรือเต้นช้าลงหรือเต้นไม่เป็นจังหวะ ตัวอย่างหัวใจเต้นผิดปกติ